Ergo บล็อกเชนญาติสนิทของ Cardano กับ 7 สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนลงทุน
(แปลและเรียบเรียงโดย Break Stake Pool)
Ergo ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในโปรเจคคริปโตที่ปฏิวัติวงการมากที่สุดที่เคยมีมา และนี่คือบทสรุปของสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุน:
สำหรับนักลงทุนคริปโตแล้วเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอที่จะหา altcoin ที่ยังราคาไม่สูงแต่มีศักยภาพในการเติบโต และ Ergo (ERG) เหมาะกับคำอธิบายนี้อย่างแน่นอน
Ergo ปรับปรุงองค์ประกอบของสองผู้นำตลาด ซึ่งก็คือ Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETH) และมีความเชื่อมโยงกับสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Cardano (ADA) สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด Ergo เติบโตขึ้นกว่า 1,800% ในปี 2564 ซึ่งเติบโตมากกว่าสองเท่าของเหรียญที่กล่าวมานั้น
แม้จะมีคุณสมบัติและเติบโตอย่างนั้น Ergo ก็ยังไม่ได้ติดใน 100 อันดับแรกของสกุลเงินที่ใหญ่ที่สุดตามมูลค่าทางการตลาด บางคนเชื่อว่าในที่สุด Ergo จะสามารถไต่ไปถึง 10 อันดับแรกได้ ซึ่งหมายความว่าตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ดีที่จะเข้าซื้อ หลังจากที่คุณเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลนี้ ดังนี้:
1. Ergo เป็นบล็อกเชนที่ตั้งโปรแกรมได้โดยไม่มีค่าแก๊ซ
ในฐานะที่เป็นบล็อคเชนที่ตั้งโปรแกรมได้ Ergo เป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนาสามารถสร้างแอพพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) คล้ายกับ Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแรก และปัจจุบัน Ethereum ก็ยังคงเป็นบล็อกเชนที่ตั้งโปรแกรมได้ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Ergo และ Ethereum ซึ่งก็คือ Ergo ไม่มีค่าแก๊ซ (ค่าธรรมเนียมธุรกรรม) ในขณะที่ Ethereum มีค่าแก๊ซซึ่งขึ้นอยู่กับความแออัดในเครือข่าย เนื่องจาก Ethereum ได้รับความนิยม ค่าแก๊ซจึงค่อนข้างแพง
การไม่มีค่าแก๊ซบน Ergo เป็นประโยชน์สำหรับนักพัฒนา เพราะสามารถคาดการณ์ต้นทุนในการสร้าง dApps บน Ergo ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
2. มี dApps ที่ใช้งานได้หลายฟังก์ชั่น และกำลังดำเนินการอยู่
Ergo มีการใช้งานได้ในทุกประเภท มาดูวิธีการใช้งานบางส่วนกัน
และนี่คือบางส่วนของ dApps:
• SigmaUSD: เหรียญ stablecoin แบบกระจายศูนย์ที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐฯ
• Ergo Auction House: แหล่งประมูล NFTs
• ErgoMixer: มิกเซอร์แบบ non-custodial และ non-interactive แรกในโลกคริปโต มิกเซอร์อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งโทเค็นเป็นชุดของธุรกรรมและผสมโทเค็นเหล่านั้นเข้าด้วยกัน สิ่งนี้ทำให้การทำธุรกรรมของผู้ใช้แต่ละรายยากต่อการติดตามมากกว่า ปัจจุบันที่เป็นการส่งโดยตรงจากกระเป๋าเงินหนึ่งไปยังอีกกระเป๋าหนึ่ง
Ergo ยังมีกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ และแพลตฟอร์มคราวด์ฟันดิ้งในการพัฒนา
3. ใช้ระบบ proof-of-work
เช่นเดียวกับ Bitcoin Ergo ใช้ระบบ proof-of-work สำหรับการขุดเหรียญใหม่และการตรวจสอบการทำธุรกรรม
ระบบ proof-of-work ใช้อุปกรณ์ในการแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน มีความปลอดภัยสูง แต่ทำให้เกิดความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในกรณีของ Bitcoin นั้นนำไปสู่การทำเหมืองโดยใช้พลังงานจำนวนมหาศาล
Ergo ได้จัดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อบรรเทาปัญหานี้ อัลกอริธึมการขุดที่เรียกว่า Autolykos ได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อทั้ง pool การขุดขนาดใหญ่และ ASIC ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการขุด Bitcoin การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นทำให้ระบบ proof-of-work ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทุกคนยังสามารถขุด Ergo โดยใช้คอมพิวเตอร์ที่มีการ์ดกราฟิกได้
4. Ergo มีทีมที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลัง
ทีมงาน Ergo นำความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลมาพัฒนาโปรเจค Alexander Chepurnoy เป็นนักพัฒนาหลักที่เคยมีส่วนร่วมใน Bitcoin มาตั้งแต่ปี 2011 และได้พัฒนาซอฟต์แวร์คริปโตมาตั้งแต่ปี 2013 เขาได้ร่วมก่อตั้ง Ergo กับ Dmitry Meshkov ซึ่งจบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์และมีประสบการณ์ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์มากกว่าทศวรรษ
Chepurnoy และ Meshkov ต่างก็ทำงานในการวิจัยที่ IOHK ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมและการวิจัยที่สร้างบล็อคเชนและสกุลเงินดิจิทัล ซึ่ง IOHK เป็นผู้สร้าง Cardano
5. Ergo ร่วมมือกับ Cardano
แม้ว่า Ergo และ Cardano จะเป็นโปรเจคที่แยกจากกัน แต่พวกเขาก็ได้ทำงานร่วมกันและดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ให้ประโยชน์ร่วมกัน โดยในปี 2020 Ergo ประกาศว่ากำลังร่วมมือกับ Cardano ในโปรเจคการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi)
Ergo ยังเป็นบล็อกเชนแรกที่ใช้ภาษา smart contracts โดยใช้รูปแบบเดียวกับ Cardano ซึ่งหมายความว่า dApps บน Cardano สามารถใช้สัญญาอัจฉริยะ ที่ต้องใช้ระบบ proof-of-work สำหรับคุณลักษณะด้านความปลอดภัย แทนที่จะจำกัดเฉพาะระบบ proof-of-stake
6. สร้างจากแนวทางที่ขับเคลื่อนด้วยการวิจัย
การทำอย่างช้าๆ แต่มั่นคง อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ทำให้โปรเจคคริปโตได้รับความนิยม แต่เป็นวิธีที่ Ergo โปรดปราน ทีมงานได้ทำการวิจัยมากมายก่อนการเริ่มเขียนโค้ด
แนวทางนี้มีข้อดีและข้อเสีย กระบวนการพัฒนาที่ต้องใช้ความอดทนนี้ ทำให้ Ergo สามารถหาวิธีแก้ปัญหาที่ต้องการแก้ไขได้ดีขึ้น และยังมีโอกาสเกิดปัญหาน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ก็เป็นความเสี่ยงที่จะเสียโอกาสให้กับโปรเจคอื่นๆ ที่พัฒนาเร็วกว่า
7. กระดานเทรด (exchange) ใหญ่ๆ ยังไม่มีเหรียญ Ergo
การซื้อ Ergo ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายในตอนนี้ เนื่องจาก Ergo ไม่ใช่หนึ่งในคริปโตที่คุณสามารถหาได้จากกระดานเทรดใดๆ ปัจจุบันมีในกระดานเทรดดังนี้:
• Gate.io
• KuCoin
• ProBit Global
• Hotbit
• FMFW.io
หาก Ergo เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตารางเทรดยอดนิยมได้มากขึ้น และมีโอกาสสูงที่จะทำให้ราคาสูงขึ้น หากคุณคิดว่า Ergo เป็นการลงทุนที่ดี คุณควรเรียนรู้วิธีซื้อตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่คุณจะได้เริ่มต้นได้เร็ว
อย่างไรก็ตาม คุณควรระมัดระวังเกี่ยวกับจำนวนเงินที่คุณจะลงทุน ไม่มีสกุลเงินดิจิทัลใดที่คุณรู้อนาคตได้ แต่ Ergo ก็เป็นหนึ่งในโปรเจคที่คุณควรพิจารณา
(ที่มา: บทความเขียนโดย Lyle Daly นักเขียนด้านการเงิน)
(แปลและเรียบเรียงโดย: Break Stake Pool — Pool ของคนไทยเพื่อสร้างชุมชน Cardano ประเทศไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรง)